แวกซ์ขนแบบไหนดี?
วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
รีวิวการกำจัดขนรักแร้ด้วยตนเอง (Review D.I.Y. Armpits waxing)
ผลงานจากลูกค้า The Sweet Blossom ที่ใช้แว๊กซ์สูตรรักแร้ และชอบมากจนช่วยทำรีวิวให้ แม่ค้านี่ปลื้มมากๆ :)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/TheSweetBlossom
website http://www.thesweetblossom.com/
Line ID: 0891843909
Credit: www.facebook.com/dontbeofoptimistic
วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558
มาทำความรู้จัก Mobile Banking / Internet Banking กันเถอะ
มาทำความรู้จัก Mobile Banking / Internet Banking กันเถอะ
Mobile Banking และ Internet Banking คือการทำธุรกรรมทางการเงิน ผ่านระบบ Internet บน Smartphone หรือ PC computer ของคุณเอง ทุกๆธุรกรรมทางการเงินที่ทำผ่าน Mobile Banking จึงมีความแม่นยำและเหมือนกันกับการทำธุรกรรมผ่านตู้ ATM และ เคาน์เตอร์ธนาคาร ทั่วประเทศ

Mobile Banking ทำอะไรได้บ้าง?
- สอบถามยอดในบัญชี ดูรายการธุรกรรมย้อนหลังได้ (ลืมการอัพบุ๊คไปได้เลย..)
- โอนเงิน/ซื้อ สินค้าและบริการ
*หลังจากทำรายการเรียบร้อยแล้ว สามารถส่ง SMS แจ้งการโอนเงินไปยังผู้รับ และ save ใบบันทึกรายการ ได้ฟรี (ตู้ ATM เคลื่อนที่นั่นเอง)
- เติมเงินโทรศัพท์มือถือค่ายต่างๆ
- ทำธุรกรรมอื่นๆ เกี่ยวกับบัญชี
- Function เสริมการทำงาน เพื่ออำนวยความสะดวกแตกต่างกันไปในแต่ละธนาคาร

ข้อดี
ข้อเสีย
ปฏิเสธไม่ได้ว่าระบบ Mobile Banking นั้นมีความสะดวกสบายมากกว่าตู้ ATM และเคาน์เตอร์ธนาคาร แต่ก็ความเสี่ยงในการถูกโจรกรรมทางการเงินมากกว่าเช่นกัน เพราะเหรียญมักมี 2 ด้านเสมอ ทุกธนาคารจึงต้องเตรียมระบบความปลอดภัย เพื่อป้องกันไว้อย่างดีที่สุด เพราะนั่นก็หมายถึงความน่าเชื่อถือ และชื่อเสียงของธนาคารโดยตรงนั่นเอง
1. ระบบ User Protection
2. ระบบ Transaction Protection (ระบบ One Time Password; OTP ผู้ใช้ท่านั้นที่สามารถเห็นรหัสนี้ได้, 1 รหัสสำหรับ 1 ธุรกรรมเท่านั้น)
3. ระบบ High Security Customer Data Protection
** สิ่งที่สำคัญในการใช้ Mobile Banking ให้ปลอดภัย คือ Username, Password และ โทรศัพท์มือถือของคุณเอง (รหัสOTP) ขอเพียงคุณไม่ให้ข้อมูลเหล่านี้กับใคร รับรองว่าการทำธุรกรรมทางการเงินมีความปลอดภัยแน่นอน**

วิธีการสมัคร
ติดต่อที่ธนาคารสาขาใดก็ได้ ด้วยตัวคุณเอง พร้อมหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ธนาคารจะแจ้งให้ทราบจ๊ะ
ข้อมูลอ้างอิง: http://www.pdamobiz.com/forum/forum_posts.asp?TID=453404&PN=1
https://www.gotoknow.org/posts/246006

Mobile Banking ทำอะไรได้บ้าง?
- สอบถามยอดในบัญชี ดูรายการธุรกรรมย้อนหลังได้ (ลืมการอัพบุ๊คไปได้เลย..)
- โอนเงิน/ซื้อ สินค้าและบริการ
*หลังจากทำรายการเรียบร้อยแล้ว สามารถส่ง SMS แจ้งการโอนเงินไปยังผู้รับ และ save ใบบันทึกรายการ ได้ฟรี (ตู้ ATM เคลื่อนที่นั่นเอง)
- เติมเงินโทรศัพท์มือถือค่ายต่างๆ
- ทำธุรกรรมอื่นๆ เกี่ยวกับบัญชี
- Function เสริมการทำงาน เพื่ออำนวยความสะดวกแตกต่างกันไปในแต่ละธนาคาร

ข้อดี
- ทุกธนาคารมีให้บริการ (ธ.ออมสิน อยู่ระหว่างดำเนินการ ^^)
- ฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียมการโอนระหว่างจังหวัด (10,20,25,...จ่ายทำไมเนอะ?) ไม่มีรายเดือน รายปี
- ไม่ต้องต่อแถว ไม่ต้องเข้าคิว ใช้งานที่ไหนก็ได้
- ประหยัดเวลา ทำหลากหลายธุรกรรม เพียงแค่คลิก
- Real-time update ทำธุรกรรมวันนี้ มีผลวันนี้ทันที
ข้อเสีย
- ขั้นตอนการสมัครยุ่งยาก (เพื่อความปลอดภัยทางการเงินของผู้ใช้เอง)
- ต้องเชื่อมต่อ Internet ในการเข้าใช้งาน
- มีความเสี่ยงการถูกโจรกรรม จาก websiteปลอม, call-center เถื่อน, เพื่อนขโมยข้อมูล T_T
ปฏิเสธไม่ได้ว่าระบบ Mobile Banking นั้นมีความสะดวกสบายมากกว่าตู้ ATM และเคาน์เตอร์ธนาคาร แต่ก็ความเสี่ยงในการถูกโจรกรรมทางการเงินมากกว่าเช่นกัน เพราะเหรียญมักมี 2 ด้านเสมอ ทุกธนาคารจึงต้องเตรียมระบบความปลอดภัย เพื่อป้องกันไว้อย่างดีที่สุด เพราะนั่นก็หมายถึงความน่าเชื่อถือ และชื่อเสียงของธนาคารโดยตรงนั่นเอง
1. ระบบ User Protection
2. ระบบ Transaction Protection (ระบบ One Time Password; OTP ผู้ใช้ท่านั้นที่สามารถเห็นรหัสนี้ได้, 1 รหัสสำหรับ 1 ธุรกรรมเท่านั้น)
3. ระบบ High Security Customer Data Protection
** สิ่งที่สำคัญในการใช้ Mobile Banking ให้ปลอดภัย คือ Username, Password และ โทรศัพท์มือถือของคุณเอง (รหัสOTP) ขอเพียงคุณไม่ให้ข้อมูลเหล่านี้กับใคร รับรองว่าการทำธุรกรรมทางการเงินมีความปลอดภัยแน่นอน**

วิธีการสมัคร
ติดต่อที่ธนาคารสาขาใดก็ได้ ด้วยตัวคุณเอง พร้อมหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ธนาคารจะแจ้งให้ทราบจ๊ะ
ข้อมูลอ้างอิง: http://www.pdamobiz.com/forum/forum_posts.asp?TID=453404&PN=1
https://www.gotoknow.org/posts/246006
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.thesweetblossom.com หรือ www.facebook.com/TheSweetBlossom ค่า ^^
วิธีแว๊กซ์ Bikini / Brazilian / Hollywood ด้วยตนเอง ง่ายๆที่บ้าน
วิธีแว๊กซ์ Bikini / Brazilian / Hollywood ด้วยตนเอง ง่ายๆที่บ้าน
การแว๊กซ์ด้วยตนเองที่บ้านนั้น ไม่เพียงจะสามารถควบคุมการแว๊กซ์ได้ด้วยตัวคุณเองแล้ว คุณอาจจะประหลาดใจเมื่อได้พบว่า ทั้งทำง่าย, เป็นส่วนตัว และประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างมาก
อันดับแรก มาทำความเข้าใจ "ชื่อเรียก" ที่แตกต่างกันของการแว๊กซ์จุดซ่อนเร้น ทั้ง 3 แบบกัน

1. Bikini Wax คือ การแว๊กซ์ขนที่อยู่ด้านนอกขอบกางเกงในออก เท่านั้น และอาจรวมถึงขนที่่อยู่บริเวณขอบกางเกงในด้านในด้วย
2. Brazilian Wax คือ การแว๊กซ์ขนที่อยู่ด้านข้าง ด้านบน ด้านล่าง ตลอดจนแนวขนที่แก้มก้น โดยยังเว้นขนในส่วนของจุดยุทธศาสตร์เหลือไว้เป็นรูปทรงตามแนวตั้งดังรูป ชื่อเรียกมีที่มาจากวิธีแว๊กซ์ยอดนิยมของชาวบราซิล ทั้งหญิงและชาย (ฺBrazilian)

3. Hollywood Wax คือ การแว๊กซ์ขนบริเวณจุดซ่อนเร้นออกทั้งหมด ไม่ให้มีขนเหลือบริเวณใดทั้งสิ้น ชื่อเรียกมีที่มาจากวิธีแว๊กซ์ยอดนิยมของดารา Hollywood และสังคมชาวอเมริกัน ทั้งหญิงและชาย

9. การดูแลรักษา หลังการแว๊กซ์ 1-2 วันแรก ให้เลี่ยงแสงแดดแรง, สปา, สระว่ายน้ำ, เล่นกีฬา, น้ำหอม, ครีมใดๆ ตลอดจนการโกน บริเวณผิวที่แว๊กซ์ หากยังมีขนหลงเหลืออยู่ประปราย ให้แว๊กซ์อีกครั้งโดยทิ้งช่วงห่างจากครั้งก่อน 1-2 วัน รวมทั้งใช้ใยอาบน้ำ หรือ ใยบวบขัดผิว ระหว่างที่อาบน้ำเพื่อป้องกันการเกิดขนคุด
ข้อมูลอ้างอิง: http://www.wikihow.com/Wax-Your-Bikini-Area-at-Home
แปลและเรียบเรียง โดย: THE SWEET BLOSSOM Sugar Honey Wax
อันดับแรก มาทำความเข้าใจ "ชื่อเรียก" ที่แตกต่างกันของการแว๊กซ์จุดซ่อนเร้น ทั้ง 3 แบบกัน

1. Bikini Wax คือ การแว๊กซ์ขนที่อยู่ด้านนอกขอบกางเกงในออก เท่านั้น และอาจรวมถึงขนที่่อยู่บริเวณขอบกางเกงในด้านในด้วย
2. Brazilian Wax คือ การแว๊กซ์ขนที่อยู่ด้านข้าง ด้านบน ด้านล่าง ตลอดจนแนวขนที่แก้มก้น โดยยังเว้นขนในส่วนของจุดยุทธศาสตร์เหลือไว้เป็นรูปทรงตามแนวตั้งดังรูป ชื่อเรียกมีที่มาจากวิธีแว๊กซ์ยอดนิยมของชาวบราซิล ทั้งหญิงและชาย (ฺBrazilian)


3. Hollywood Wax คือ การแว๊กซ์ขนบริเวณจุดซ่อนเร้นออกทั้งหมด ไม่ให้มีขนเหลือบริเวณใดทั้งสิ้น ชื่อเรียกมีที่มาจากวิธีแว๊กซ์ยอดนิยมของดารา Hollywood และสังคมชาวอเมริกัน ทั้งหญิงและชาย

วิธีการ
- เลือกซื้อชุดแว๊กซ์สำหรับทำเองที่บ้าน ขอให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่เลือกซื้อนั้น เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้แว๊กซ์กับจุดซ่่อนเร้นซึ่งบอบบางเป็นพิเศษได้ ตลอดจนควรเตรียมพร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็น ได้แก่ แหนบสำหรับดึง, กรรไกรสำหรับเล็มขน, ไม้ตัก และผ้าดึงสำหรับแว๊กซ์, moisturiserที่บอบบางต่อผิวเป็นพิเศษ, baby oil และ สำลีสำหรับเช็ด
- วางแผนรูปแบบการแว๊กซ์ที่คุณต้องการ สิ่งที่ควรคำนึงถึง ได้แก่ ปริมาณขนที่ต้องการแว๊กซ์ รูปทรงของขนที่ต้องการ แบบทั่วไป ทรงเข็ม ทรงสามเหลี่ยม ทรงหัวใจ (ทำไงว้า?) หรือการแว๊กซ์ขนออกทั้งหมดแบบ full Brazilian
- อาบน้ำอุ่นและเล็มขน การอาบด้วยน้ำอุ่น นอกจากจะเป็นการชำระไขมัน คราบไคลออกได้ดีแล้ว ยังช่วยให้ผิวของคุณนุ่มเนียนและลดอาการเจ็บลงได้ด้วย จากนั้นเล็มขนให้สั้นจนเหลือ 1 ซม และเช็ดด้วย Moisturising ที่เตรียมไว้เพื่อเตรียมผิวสำหรับขั้นตอนต่อไป
- อุ่นแว๊กซ์ให้ร้อน (กรณีทำ Warm Wax) **ถ้าทำ Cold Wax ให้เปิดกระปุกใช้ได้เลย ไม่ต้องอุ่น** แว๊กซ์ที่ต่างชนิดกันย่อมมีขั้นตอนวิธีที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามการทดสอบความอุ่นของแว๊กซ์ร้อนที่ข้อมือจะช่วยป้องกันไม่ให้แว๊กซ์ร้อนจนเกินไป และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้ hard wax (เจ็บเกินไป) Soft wax คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ Brazillian and Bikini wax
- ประจำตำแหน่ง ท่าทางที่ดีที่สุด คือ นอนราบไปกับเตียงนอน ห้อยขาลงบนพื้น และแยกขาทั้งสองข้างออกจากกัน การหนุนศรีษะให้สูงขึ้นด้วยหมอนจะช่วยเพิ่มระดับการมองเห็นระหว่างการแว๊กซ์ได้มากขึ้น ขนบางบริเวณที่ยากต่อการเข้าถึง เช่นตามง่ามมุมต่างๆ อาจต้องใช้วิชายกแข้ง-ยกขากันสักหน่อย
- ป้ายเนื้อแว๊กซ์ ป้ายเนื้อแว๊กซ์เพียงบางๆตามแนวขึ้นของเส้นขน ขนชี้ลง /ขึ้น /ออกเฉียง ให้ป้ายตามแนวขนไป โดยให้แบ่งพื้นที่ทำแยกกัน ค่อยๆแว๊กซ์เป็นพื้นที่เล็กๆ ในระนาบแนวนอน / แนวตั้ง อย่างเป็นระเบียบ แนวการแว๊กซ์จะต้องไม่สะเปะสะปะไปมา (มีคลืปสาธิตประกอบ) จากนั้นให้นำแผ่นผ้ามาทาบบริเวณที่ป้ายเนื้อแว๊กซ์ ลูปให้แน่นไปกับผิวคุณ เว้นพื้นทีส่วนปลายของผ้าไว้เล็กน้อย เพื่อเป็นมุมจับสำหรับดึง
- การดึง ดึงแผ่นผ้าแว๊กซ์ขึ้นอย่างรวดเร็ว ในทิศทางตรงข้าม กับการป้ายแว๊กซ์ หรือทิศทางของขน อย่างรวดเร็วและทันที (กรณีแว๊กซ์ร้อน ให้ทิ้งเนื้อแว๊กซ์ให้แข็งตัวประมาณ 10-15 วินาที แล้วค่อยกระตุกผ้าขึ้น) จากนั้นใช้มือกดลงบนผิวที่แว๊กซ์เป็นเวลาชั่วครู่ เพื่อผ่อนคลายผิว
- จากนั้น ทำเหมือนเดิมกับพื้นที่ถัดไปทันที โดยป้ายเนื้อแว๊กซ์ 1 ครั้ง / 1 พื้นที่การทำเท่านั้น หากจะทำพื้นที่ใหม่ จึงค่อยป้ายเนื้อแว๊กซ์ใหม่ ไม่ป้ายแว๊กซ์ทิ้งไว้ สามารถใช้ผ้าดึงซ้ำได้จนกระทั่งหมดความเหนียว แต่ไม่ควรแว๊กซ์พื้นที่เดิมเกิน 2 ครั้ง สำหรับเส้นขนที่ยังหลงเหลืออยู่ ออกไม่หมด ให้กลับมาแว๊กซ์เก็บงาน เน้นเป็นจุดๆ รวมทั้งใช้แหนบช่วยดึงเส้นขนที่เล็กมากหรืออยู่บริเวณที่เข้าถึงยาก ในขั้นตอนหลัง
9. การดูแลรักษา หลังการแว๊กซ์ 1-2 วันแรก ให้เลี่ยงแสงแดดแรง, สปา, สระว่ายน้ำ, เล่นกีฬา, น้ำหอม, ครีมใดๆ ตลอดจนการโกน บริเวณผิวที่แว๊กซ์ หากยังมีขนหลงเหลืออยู่ประปราย ให้แว๊กซ์อีกครั้งโดยทิ้งช่วงห่างจากครั้งก่อน 1-2 วัน รวมทั้งใช้ใยอาบน้ำ หรือ ใยบวบขัดผิว ระหว่างที่อาบน้ำเพื่อป้องกันการเกิดขนคุด
ข้อมูลอ้างอิง: http://www.wikihow.com/Wax-Your-Bikini-Area-at-Home
แปลและเรียบเรียง โดย: THE SWEET BLOSSOM Sugar Honey Wax
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.thesweetblossom.com หรือ www.facebook.com/TheSweetBlossom ค่า ^^
เปรียบเทียบ แว๊กซ์น้ำตาล vs. แว๊กซ์ขี้ผึ้ง, การโกน, ครีมกำจัดขน
เปรียบเทียบ แว๊กซ์น้ำตาล vs. แว๊กซ์ขี้ผึ้ง, การโกน, ครีมกำจัดขน (Sugaring vs. Waxing, Shaving and depilatory creams)
บทความอธิบายมการใช้ Sugar Honey Wax ซึ่งกำจัดขนได้ถึงรากขน จึงช่วยให้ขนที่ขึ้นใหม่ บางลงและขึ้นช้าลงกว่าเดิม รวมทั้งช่วยถนอมผิว เปรียบเทียบกับการใช้แว๊กซ์ขี้ผึ้งธรรมดา (wax), การโกน และครีมกำจัดขน ซึ่งกำจัดเพียงโคนเส้นขนเท่านั้น
www.beautysugaring.co.uk/sugar-vs-wax-ezp-4.html#.VBeX8ZSSySp
This link explains how Sugar Honey Wax helps removing unwanted hair, nourishing your skin and new hair grown softer and lesser.


Sugaring is the gentle alternative to all other hair removal processes and is the most effective.
Shaving and depilatory creams only get rid of the hair at the surface of the skin; the hair grows back quickly and coarsely. So you have to spend lots of time and money to keep your skin hair-free. When using depilatory creams you are applying harsh chemicals directly onto your skin over and over again.
Although waxing products can remove hair from the root, they can also damage the skin and require treatment lotions to repair that damage. Long term use of wax can also be detrimental.
With sugaring you are meeting the needs of your skin while removing unwanted hair.Your skin will thank you for feeling softer and smoother with each use of the sugaring paste.
www.beautysugaring.co.uk/sugar-vs-wax-ezp-4.html#.VBeX8ZSSySp
This link explains how Sugar Honey Wax helps removing unwanted hair, nourishing your skin and new hair grown softer and lesser.


Sugaring is the gentle alternative to all other hair removal processes and is the most effective.
Shaving and depilatory creams only get rid of the hair at the surface of the skin; the hair grows back quickly and coarsely. So you have to spend lots of time and money to keep your skin hair-free. When using depilatory creams you are applying harsh chemicals directly onto your skin over and over again.
Although waxing products can remove hair from the root, they can also damage the skin and require treatment lotions to repair that damage. Long term use of wax can also be detrimental.
With sugaring you are meeting the needs of your skin while removing unwanted hair.Your skin will thank you for feeling softer and smoother with each use of the sugaring paste.
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.thesweetblossom.com หรือ www.facebook.com/TheSweetBlossom ค่า ^^
ขนคุด และ การกำจัดขน
ขนคุด และ การกำจัดขน
ขนคุด (keratosis pilaris) เกิดจากอะไร?
เกิดจากการติดเชื้อที่รูขุมขน, ปลายเส้นขนแทงรูขุมขน จนทำให้เกิดการอักเสบ หรือ การอุดตันของรูขน ส่งผลให้ขนไม่สามารถงอกทะลุรูขุมขนออกมาได้ เกิดเป็นขนคุดอยู่ใต้ผิวหนัง มักพบในผู้ที่มีผิวแห้ง และอาการจะเป็นมากขึ้นในช่วงที่มีอาการเย็นและแห้ง

ขนคุด ไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ แต่อาจทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับรูปลักษณ์ และความสวยงาม สามารถแบ่งกลุ่มได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
• กลุ่มพันธุกรรม เกิดจากความผิดปกติของการสร้างเซลล์ผิวหนัง ให้รูขุมขนอุดตันด้วยโปรตีนเคราติน (keratin) ส่งผลให้ขนไม่สามารถงอกออกมาได้ เกิดเป็นขนคุดที่อยู่ใต้ผิวหนัง เกิดอาการแดง การอักเสบเป็นหนอง เป็นฝี หรือ รอยดำ โดยจะพบได้บ่อยในช่วงวัยรุ่น อาการเป็นๆ หายๆ แต่อาจดีขึ้นได้เมื่ออายุมากขึ้น
• กลุ่มสรีระ เกิดจากตำแหน่งสรีระของแต่ละคน เช่น บริเวณท้ายทอย ต้นคอ ใต้คาง ขาหนีบ ที่มีลักษณะพับทับกัน ซึ่งอาจทำให้ขนไม่ยอมขึ้น แล้วไปเบียดตัวอยู่ในรูขุมขน จนทำให้เป็นขนคุดได้
• กลุ่มกำจัดขน คือ การโกนขนทวนทิศทางการงอก หนีบขน แหนบขน หรือการแว็กซ์ขนที่ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกวิธี จนทำให้เส้นขนขาด เกิดเป็นปลายแหลมไปทิ่มแทงรูขนให้เกิดอาการอักเสบได้

**ในบทความนี้ จะขอ Review เฉพาะ ขนคุดที่เกิดจากการกำจัดขนที่ไม่ถูกต้องเท่านั้นนะคะ ส่วนกลุ่มพันธุกรรม และ กลุ่มสรีระ นั้น เกิดขึ้นตามธรรมชาติและมีแนวทางการรักษาหลากหลายไปในแต่ละบุคคล แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง จะดีที่สุดค่ะ**


ภาพเปรียบเทียบ ขนคุดกลุ่มพันธุกรรม vs. ขนคุดกลุ่มกำจัดขนที่ไม่ถูกวิธี
ขนคุด ดูแล-รักษาอย่างไร?

ดังนั้น การกำจัดขนจึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการป้องกันขนคุด และ ขนคุดไม่ได้เกิดจากแว๊กซ์ขน แต่เกิดจากการกำจัดขนที่ผิดวิธี ได้แก่ การโกน การถอน และการใช้ครีมกำจัดขน ที่ผิดวิธีนั่นเอง
ที่มา: http://women.haijai.com/1539/
นพ.รัฐภรณ์ อึ๊งภากรณ์/แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
http://haamor.com/โรคขนคุด
เกิดจากการติดเชื้อที่รูขุมขน, ปลายเส้นขนแทงรูขุมขน จนทำให้เกิดการอักเสบ หรือ การอุดตันของรูขน ส่งผลให้ขนไม่สามารถงอกทะลุรูขุมขนออกมาได้ เกิดเป็นขนคุดอยู่ใต้ผิวหนัง มักพบในผู้ที่มีผิวแห้ง และอาการจะเป็นมากขึ้นในช่วงที่มีอาการเย็นและแห้ง

ขนคุด ไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ แต่อาจทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับรูปลักษณ์ และความสวยงาม สามารถแบ่งกลุ่มได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
• กลุ่มพันธุกรรม เกิดจากความผิดปกติของการสร้างเซลล์ผิวหนัง ให้รูขุมขนอุดตันด้วยโปรตีนเคราติน (keratin) ส่งผลให้ขนไม่สามารถงอกออกมาได้ เกิดเป็นขนคุดที่อยู่ใต้ผิวหนัง เกิดอาการแดง การอักเสบเป็นหนอง เป็นฝี หรือ รอยดำ โดยจะพบได้บ่อยในช่วงวัยรุ่น อาการเป็นๆ หายๆ แต่อาจดีขึ้นได้เมื่ออายุมากขึ้น
• กลุ่มสรีระ เกิดจากตำแหน่งสรีระของแต่ละคน เช่น บริเวณท้ายทอย ต้นคอ ใต้คาง ขาหนีบ ที่มีลักษณะพับทับกัน ซึ่งอาจทำให้ขนไม่ยอมขึ้น แล้วไปเบียดตัวอยู่ในรูขุมขน จนทำให้เป็นขนคุดได้
• กลุ่มกำจัดขน คือ การโกนขนทวนทิศทางการงอก หนีบขน แหนบขน หรือการแว็กซ์ขนที่ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกวิธี จนทำให้เส้นขนขาด เกิดเป็นปลายแหลมไปทิ่มแทงรูขนให้เกิดอาการอักเสบได้

**ในบทความนี้ จะขอ Review เฉพาะ ขนคุดที่เกิดจากการกำจัดขนที่ไม่ถูกต้องเท่านั้นนะคะ ส่วนกลุ่มพันธุกรรม และ กลุ่มสรีระ นั้น เกิดขึ้นตามธรรมชาติและมีแนวทางการรักษาหลากหลายไปในแต่ละบุคคล แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง จะดีที่สุดค่ะ**


ภาพเปรียบเทียบ ขนคุดกลุ่มพันธุกรรม vs. ขนคุดกลุ่มกำจัดขนที่ไม่ถูกวิธี
ขนคุด ดูแล-รักษาอย่างไร?
- รักษาความชุ่มชื้นของผิวหนังอยู่เสมอ
- อย่าแกะ อย่าบีบ อย่าเกา เพราะจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นและหายยาก
- ใช้สบู่อ่อน สำหรับผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย เช่น สบู่เด็กอ่อน
- ทาโลชัน Moisturizer ให้ความชุ่มชื้นหลังอาบน้ำเช้า-เย็น และทาได้บ่อยขึ้นอีกบริเวณผิวที่แห้ง
- เลี่ยงการอาบน้ำอุ่น และใช้ใยขัดผิว ขัดเพียงเบาๆ เพื่อกำจัดเซลล์ผิวเก่าออก

- หากเกิดจากการโกนขนที่ผิดวิธี --- ควรโกนตามแนวขนไม่ให้โกนย้อนขึ้น และใช้มีดโกนที่สะอาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- หากเกิดจากการถอนขนที่ผิดวิธี --- ควรถอนให้หมดทั้งเส้น ไม่ให้ขนขาด มีรากขนฝังในรูขุมขน
- หากเกิดจากการแว๊กซ์ขนที่ผิดวิธี --- ควรแว๊กซ์ให้หมดทั้งรากขน ไม่ให้ขนขาด มีรากขนฝังในรูขุมขน
ดังนั้น การกำจัดขนจึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการป้องกันขนคุด และ ขนคุดไม่ได้เกิดจากแว๊กซ์ขน แต่เกิดจากการกำจัดขนที่ผิดวิธี ได้แก่ การโกน การถอน และการใช้ครีมกำจัดขน ที่ผิดวิธีนั่นเอง
ที่มา: http://women.haijai.com/1539/
นพ.รัฐภรณ์ อึ๊งภากรณ์/แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
http://haamor.com/โรคขนคุด
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.thesweetblossom.com หรือ www.facebook.com/TheSweetBlossom ค่า ^^
ป้ายกำกับ:
การกำจัดขน,
การแว๊กซ์,
แว๊กซ์น้ำตาล,
แว๊กซ์เย็น,
แว๊กซ์ร้อน,
cold wax,
Hair Removal,
Sugar Wax,
Waxing
วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557
THE SWEET BLOSSOM แว๊กซ์น้ำตาลกำจัดขน จากธรรมชาติ 100%
Sweet Blossom คือ แว๊กซ์เย็น (cold wax) ผลิตจากน้ำตาลและส่วนผสมจากธรรมชาติ เปิดกระปุกพร้อมใช้กำจัดขนได้ทุกส่วน ทั้ง แขน ขา ใบหน้า หน้าอก บิกินี บราซิลเลียน และรักแร้ และสามารถนำแว๊กซ์ไปอุ่นด้วยความร้อน เพื่อใช้เป็นแว๊กซ์ร้อน (warm wax) ได้ดีเช่นเดียวกัน
เพราะ Sweet Blossom นั้นไม่มีการเติมน้ำหอม สารกันเสีย หรือ สารเคมีใดๆ ทำให้นอกจากจะช่วยไม่ให้เกิดเป็นขนคุด แผลฟกช้ำแล้ว ยังระคายเคืองน้อยกว่าสูตรแว๊กซ์ทั่วๆไป รวมทั้งช่วยถนอมผิวให้นุ่มและกระจ่างใสยิ่งขึ้น ขนที่ขึ้นใหม่จึงเรียวบาง อ่อนนุ่ม และขึ้นช้าลงอย่างสังเกตได้
ส่วนประกอบสำคัญ : Sugar, Honey, Tamarind Extract
ผลิตภัณฑ์ของเรา ได้แก่
- Wax Small Size (100g.) + ไม้พาย 1 อัน + ผ้า 6 ผืน ราคา : 250 Baht
- Wax Mediuml Size (200g.) + ไม้พาย 1 อัน + ผ้า 10 ผืน ราคา : 350 Baht
- Wax Large Size (500g.) + ไม้พาย 2 อัน + ผ้า 20 ผืน ราคา : 600 Baht
- ผ้า 20 ผืน แยกจำหน่าย ราคา : 60 Baht
แว๊กซ์ของเรา ได้ผ่านการจดแจ้งส่วนประกอบกับทาง อย. แล้ว
ดังนั้นคุณลูกค้าจึงมั่นใจได้เลยว่า แว๊กซ์กำจัดขนของเรามีคุณภาพและปลอดภัยค้าาาา
เลขที่ใบรับจดแจ้งกับอย. : 10-1-5331989
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.thesweetblossom.com หรือ www.facebook.com/TheSweetBlossom ค่า ^^


ป้ายกำกับ:
การกำจัดขน,
แว๊กซ์น้ำตาล,
แว๊กซ์เย็น,
แว๊กซ์ร้อน,
cold wax,
Hair Removal
ตำแหน่ง:
Bangkok, Thailand
วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2557
ประวัดิความเป็นมาของ การแว๊กซ์ กำจัดขน
การกำจัดขน ซึ่งรวมไปถึงการทำ Brazilian Waxing เริ่มต้นในอารยะธรรมอินเดียโบราณหลายพันปีก่อนคริสตกาล
(4000 to 3000 BC)
ในศาสนาอิสลามเองก็ได้บัญญัติไว้เป็นส่วนหนึ่งของ Fitrah
หรือสิ่งที่พึงกระทำ 5 ประการ ขณะที่ดินแดนตะวันออกกลาง
ก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นขั้นตอนเพื่อสุขลักษณะของชนชั้นสูงนับหลายศตวรรษ ส่วนชาวยุโรปนั้นเพิ่งเริ่มรู้จักการกำจัดขนในยุคสงครามครูเสด
หลังจากที่นักรบศักดิ์สิทธิ์ได้กลับมาจากดินแดนในตะวันออกกลาง
แต่เริ่มได้รับความนิยมอย่างจริงจังและแพร่หลายในยุค 1940’s เป็นต้นมา
เป็นที่ยอมรับการอย่างแพร่หลายว่าการกำจัดขนทั้งเรือนร่าง
เริ่มต้นขึ้นที่ประเทศแถบตะวันออกกลาง จุดประสงค์แรกเพื่อเป็นการป้องกันเห็บไร
และปรสิตพาหะนำโรคต่างๆ
ตลอดจนเพื่อเป็นกำจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ในฤดูร้อนอีกด้วย และเป็นธรรมเนียมปฏิบัติจนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของพิธีทางศาสนา
เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสะอาดและบริสุทธิ์ โดยแนะนำให้ทั้งชายและหญิงควรทำการแว๊กซ์ขนทั่วเรือนร่างอยู่เป็นประจำ
อย่างน้อยทุกๆ 40 วัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และยินดีตอบทุกข้อสงสัยการแว๊กซ์ขนได้ที่ www.thesweetblossom.com หรือ www.facebook.com/TheSweetBlossom ค่า ^^
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)